กรณีศึกษา Line Application จากแอพสำหรับแชทสู่การเป็น Super App

Super App หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Everyday App คือ Application ที่คลอบคลุมทุกบริการ หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ว่ามีทุกอย่างพร้อมบริการในแอพเดียว ซึ่งตัวอย่างที่เราจะยกมาพูดถึงก็คือ กรณีศึกษา Line Application จากแอพสำหรับแชทสู่การเป็น Super App

---

กรณีศึกษา Line Application จากแอพสำหรับแชทสู่การเป็น Super App

            Super App หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Everyday App คือ Application ที่คลอบคลุมทุกบริการ หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ว่ามีทุกอย่างพร้อมบริการในแอพเดียว ซึ่งตัวอย่างที่เราจะยกมาพูดถึงก็คือ กรณีศึกษา Line Application จากแอพสำหรับแชทสู่การเป็น Super App

            กรณีศึกษา Line  Application  เป็นอีกหนึ่งแชทแอพที่คนไทยนิยมใช้งานกันมากที่สุด และในปัจจุบันนี้คงมิอาจปฏิเสธได้ว่าเป็นแอพพลิเคชั่นที่ให้บริการได้คลอบคลุมเอามากๆ ไม่ว่าจะเป็น Line ที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการแชทด้วยการส่งข้อความ รูปภาพและวีดีโอ อีกทั้งยังสามารถโทรหากันได้ด้วย ไม่ว่าจะโทรเดี่ยวหรือโทรกลุ่ม อีกทั้งยังมีบริการย่อยๆ ออกมาให้เราได้ใช้งานกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น LINE PAY (สำหรับจ่ายเงิน), LINE MAN (สำหรับส่งของหรือสั่งอาหาร) หรือ LINE TV และ LINE TODAY (สำหรับติดตามข่าวสาร บทความ และสาระบันเทิง), Line MYSHOP ที่สำหรับเปิดร้านขายของออนไลน์ หรือ Line Camera ที่ใช้สำหรับตกแต่งรูปภาพ เป็นต้น

            และยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ Line ได้เปิดตัว Line Advertising หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า Line Ads ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เจ้าของธุรกิจ ผู้ประกอบการสามารถลงโฆษณาบนหน้าไทม์ไลน์ของไลน์ได้ด้วยตัวเองและยังสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมาย (target group) ได้ด้วยเหมือนกับการยิงแอดบนเฟซบุ๊ก ซึ่งจะเห็นได้ว่า Line ได้มีการพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ ออกมาอยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะสร้างตัวเองให้กลายเป็น Super App อย่างเต็มตัว เพราะถ้าได้เป็น Super App ก็จะมีคนเข้ามาใช้งานอยู่ตลอดเวลา

            สิ่งที่ผู้ประกอบการควรนำไปประยุกต์ใช้จาก กรณีศึกษา Line Application จากแอพสำหรับแชทสู่การเป็น Super App คือ

1. เราต้องปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีเพราะเทคโนโลยีมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
2. ผู้ประกอบการต้องมีการวางแผนเติบโตล่วงหน้า ดูอย่าง Line ที่ต้องการเป็น Super App เค้าก็ต้องมีการงานแผนเติบโตล่วงหน้าเช่นกัน เพราะถ้าเรามีแผนการเติบโตที่ชัดเจนเราก็จะสามารถวางแผนเพื่อที่จะยึดตลาดให้ได้เร็วที่สุด
3. โฟกัสเรื่องหลักๆ ที่ต้องทำก่อน ดูสิ่งที่ Line ทำจะเห็นได้ว่าเค้าจะเริ่มจากให้บริการฟีเจอร์หลักๆ ก่อนเพื่อดึงดูดให้มีคนเข้าไปใช้งานจนมันติดตลาด หลังจากนั้นถึงจะพัฒนาฟีเจอร์อื่นตามมา
4. การสร้าง Super App ของ Line ไม่ได้เสร็จในวันเดียว การสร้างธุรกิจของเราก็เช่นกันต้องอาศัยระยะเวลาเหมือนกัน

            จาก กรณีศึกษา Line นั้นทำให้เห็นว่าการที่เราต้องการจะเป็นสุดยอดในด้านใดนั้น ก็ต้องเริ่มจากอาศัยระยะเวลาในการพัฒนาสินค้าหรือบริการให้ไปถึงจุดที่เราตั้งไว้ให้ได้โดยมีการวางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และมีสิ่งที่สามารถใช้เป็นตัววัดผลได้