กรณีศึกษา ซอสศรีราชา โดนเวียดนามแย่งซีนจดชื่อทะเบียนการค้าต่างประเทศ
การคิดค้นและสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเอง ตามหลักการทางการตลาดแล้ว การสร้าง แบรนด์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ไม่เหมือนใครจะทำให้ลูกค้าจดจำได้ สร้างโอกาสในการขายได้มากกว่าชื่อแบรนด์ทั่วไป แต่ความเสี่ยงก็มีเช่นกัน เพราะอาจจะมีคนนำชื่อแบรนด์ของเราไปลอกเลียนแบบหรือเอาไปจดทะเบียนการค้าได้ อย่าง กรณีศึกษา ซอสศรีราชา ที่โดนเวียดนามแย่งซีนจดชื่อทะเบียนการค้าต่างประเทศไปนั้น แท้จริงแล้วเรื่องราวนี้เป็นเช่นไร แล้วเราจะเรียนรู้อะไรจากกรณีศึกษานี้ได้บ้าง
กรณีศึกษา ซอสศรีราชา เริ่มต้นมาจากมีข่าวดังทางโซเชียวว่ามีประเด็น “ซอสพริกศรีราชา” ถูกเวียดนามขโมยชื่อจดสิทธิบัตรในนาม SRIRACHA HOT Chili Sauce จนเกิดการทวงถามว่าเจ้าของแบรนด์คนไทยทราบหรือไม่ว่าโดนขโมย ต่อมามีเจ้าของแบรนด์อัดคลิปยืนยันว่าต่อสู้ยื่นจดสิทธิบัตรมา 7 ปี แต่ไม่เคยได้รับการเหลียวแล แต่ภายหลังมีการแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงจากเว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ โดยอธิบายไว้ว่า คำว่าศรีราชาเป็นชื่อในอำเภอหนึ่งของจังหวัดชลบุรีและถือเป็นชื่อทางภูมิศาสตร์ จึงไม่สามารถจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เพื่อถือสิทธิแต่เพียงผู้เดียวได้ แต่ผู้ประกอบการสามารถใช้คำว่า “ซอสพริกศรีราชา” บรรยายสินค้าโดยจะต้องมีโลโก้หรือเครื่องหมายการค้าของตนกำกับด้วยเสมอ
สิ่งที่ผู้ประกอบการได้เรียนรู้จาก กรณีศึกษา ซอสศรีราชา ได้แก่
กรณีศึกษา ซอสศรีราชา เป็นกรณีตัวอย่างของการสร้างแบรนด์และการจดทะเบียนการค้าที่เราได้เรียนรู้ในหลายๆ อย่าง รวมถึงการศึกษาข้อมูลและข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการค้าการพาณิชย์และการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้เพื่อให้เราสามารถประกอบกิจการหรือธุรกิจได้อย่างถูกต้องตามหลักกฏหมายและเป็นการคุ้มครองตัวเราจากการลอกเลียนแบบอีกด้วย