รับส่วนลด 300 บาทสำหรับการซื้อครั้งแรก

Sense of urgency เรื่องของ Sense ที่คุณควร

22 ตุลาคม 2564
Sense of urgency เรื่องของ Sense ที่คุณควร

Sense of urgency เรื่องของ Sense ที่คุณควรรู้

คุณเคยสงสัยไหมบริษัทที่ประสบความสำเร็จ ที่จริงแล้วผู้นำองค์กรต้องเป็นคนมองอนาคตและวางแผนแก้ไขปัญหา เพื่อทำให้องค์กรเติบโต โดยเขาต้องมี Sense ในการคาดคะเน ดูสถานการณ์ของตลาดในอุตสาหกรรมเดียวกัน และสถานการณ์โลก ดังนั้นทักษะที่ผู้นำควรมีและสำคัญอย่างหนึ่งคือ ความรู้สึกถึงความเร่งด่วน หรือ Sense of urgency 


ในยุคสมัยที่โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกวินาที องค์กรต่างๆไม่ใช่แค่ผู้นำ แต่พนักงานต้องเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลงให้ทันกับกระแสของเทคโนโลยี กระแสเทรนด์ต่างๆ ที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เราต้องไม่เดินช้า ไม่คิดช้า ไม่ทำอะไรช้า เพื่อให้ตามคู่แข่งได้ทัน

 

ยิ่งในยุคที่ถูก Disruption จากสถานการณ์หลายๆอย่าง ธุรกิจและองค์กรเล็กไปจนถึงองค์กรใหญ่ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน องค์กรไหนที่ปรับตัวและ Move On ไปข้างหน้าได้เร็วกว่า เปลี่ยนวิกฤตให้กลายเป็นช่องทางของโอกาส องค์กรนั้นก็จะฟื้นตัวและมีแนวโน้มกลับมาเติบโตได้รวดเร็ว

 

ดังนั้น Sense of urgency จึงสำคัญในยุคที่ถูก Disruption แบบนี้ เพราะแต่ละองค์กรต้องรู้ว่าตัวเองต้องทำยังไงถึงจะเอาชนะคู่แข่ง ทำยังไงถึงจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็ว ยิ่งเป็นองค์กรที่เล็ก ยิ่งต้องมีความเร่งรีบเพื่อไม่ให้องค์กรใหญ่แย่งตลาดและกลุ่มเป้าหมายไป  สิ่งที่ไม่ควรทำถ้าไม่อยากเติบโตช้าคืออะไร เราจะยกตัวอย่างมาให้คุณเห็นภาพ

  1. ใช้ชีวิตไปวันๆ : การใช้ชีวิตไปวันๆแบบไม่มีจุดหมาย ไม่ Active ไม่เร่งรีบต่อทุกสถานการณ์ คือกลุ่มคนที่ปล่อยตัวชิล แต่ในโลกของธุรกิจเราจะช้าไม่ได้ เพราะทุกวินาทีคือโอกาส ทุกนาทีอาจจะพลิกชีวิตของคุณได้
  2. เดี๋ยวค่อยทำ : เคยได้ยินคำพูดนี้ไหม? คำพูดที่พลัดไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายแล้ว ก็ไม่ได้ทำสักที คำพูดที่ไม่ได้คิดถึง Sense ของการเร่งรีบ ถ้าเราเปลี่ยนเป็น ‘เดี๋ยวทำเลย’ ความหมายและผลลัพท์ก็จะเปลี่ยนตามไป
  3. เปลี่ยน Mindset : เป็นสิ่งสำคัญมากในการที่จะเปลี่ยนความคิด ให้ Growth Mindset  คือการพัฒนาความคิดของเราให้เติบโต เรียนรู้วิกฤติ และปัญหา ความล้มเหลว และใช้ Sense of urgency  ช่วยให้ตัวเองมีความเร่งรีบและเปลี่ยนความคิดเพื่อทำให้ตัวเองก้าวหน้า และมีโอกาสประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วกว่า แต่ถ้าคิดแบบ Fixed Mindset ที่ยึดติดกับความคิดเดิมๆ ไม่กล้าที่เปลี่ยนแปลง ทำอะไรชักช้าและย่ำอยู่กับที่ โอกาสที่ตัวคุณหรือองค์กรของคุณจะประสบความสำเร็จยิ่งมองไม่เห็นแสงที่ปลายอุโมงค์
  4. เลือกอยู่ใกล้คนที่มี Sense of urgency : เพราะการที่เราเลือกคบหรือเลือกอยู่ใกล้กลุ่มคนประเภทใช้ชีวิตเร่งรีบกับการทำงาน ทุกวันมีความหมาย เป็นโอกาสในการพัฒนาตัวเองและพัฒนาธุรกิจให้เติบโต ย่อมส่งผลดีให้กับตัวเอง การเอาตัวเองเข้าไปพูดคุยและได้แลกเปลี่ยนความคิดกับคนที่มี Sense of urgency จะยิ่งทำให้เรา Active และกระตือรือร้น อยากสร้างความสำเร็จได้เร็วขึ้น ในทางตรงกันข้าม หากคุณเลือกอยู่ใกล้คนเฉื่อยชา ไม่ทำอะไร ไม่มี Sense ใช้ชีวิตแบบล่องลอย ชีวิตของคุณก็เสพแต่ด้านลบ พลังงานลบๆ ดังนั้นคุณจึงต้องมี Sense ในการคบคนที่จะส่งผลดีกับตัวเองทั้งในปัจจุบันและอนาคต

 

เรื่องของ Sense ไม่สามารถบังคับกันได้ แต่เราสามารถค่อยๆเปลี่ยนตัวเองจากภายในจิตใจออกมาสู่ภายนอก เรียนรู้คนที่เขาประสบความสำเร็จ และใช้ Sense of urgency ในการดำเนินชีวิตและพัฒนาองค์กร เขามีแนวทางแบบไหน มีแนวคิดแบบไหน ทำไมเขาถึงแก้ปัญหาที่ Disruption ได้


ทำไมเขาถึงเปลี่ยนวิกฤติให้กลายเป็นโอกาสในสถานการณ์แบบนี้ได้ เพราะสุดท้าย เมื่อตัวตนเราได้ฝึกฝนและเรียนรู้ Sense of urgency ให้ซึมซับเข้าไปภายในจิตใจ กระบวนการคิดในใช้ชีวิตประจำวัน กระบวนการทำงานจะถูกใช้ Sense of urgency มาเป็นทักษะในการแก้ปัญหาและบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี

 


บทความที่คล้ายกัน