กรณีศึกษา ชาพะยอม
จากร้านข้างถนนสู่แฟรนไชส์หลายพันสาขาทั่วประเทศ
จากกรณีศึกษา ชาพะยอม ทำให้เราทราบว่าจุดเริ่มต้นของชาพะยอมเกิดจากความชื่นชอบในการดื่มชาของ อุไรวัลย์ ไตรจันทร์ ผู้ก่อตั้ง และกรรมการผู้จัดการ บริษัท พะยอม ที จำกัด เธอชื่นชอบดื่มชามาก ๆ จนในที่สุดได้เรียนรู้ คิดค้น และปรุงสูตรเครื่องดื่มเป็นของตัวเอง จนได้สัดส่วนที่ลงตัว จึงตัดสินใจเปิดร้านขายชาเป็นสาขาแรกที่เมืองหาดใหญ่ ด้วยรสชาติที่อร่อย และราคาจับต้องได้ ทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนขยายสาขา (แฟรนไชส์) ได้มากถึง 2,500 สาขา ในเวลาเพียง 5 ปี
สิ่งที่ผู้ประกอบการควรนำไปประยุกต์จากกรณีศึกษา ชาพะยอม
1. ชาพะยอมให้ความสำคัญเรื่องรสชาติเป็นอันดับ 1 เพราะหากไม่อร่อยลูกค้าพร้อมโบกมือลาทันที! ด้วยรสชาติที่อร่อยถูกปากลูกค้า และมีเมนูให้เลือกมากกว่า 30 รายการ เช่น ชาเชียว ชานม กาแฟ ฯลฯ จึงทำให้แบรนด์เติบโตได้เร็วในเวลาเพียงแค่ 4-5 ปีเท่านั้น ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรก็ต้องให้ความสำคัญกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการเป็นลำดับแรก อย่างเช่น เรื่องของรสชาติที่ชาพะยอมให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก
2. จากกรณีศึกษา ชาพะยอม ทำให้เราทราบเรื่องกลยุทธ์ราคา สินค้าอร่อย หลากหลาย แต่ราคาสูงเวอร์ คงไม่มีใครซื้อ ราคาของชาพะยอมจึงอยู่ที่ 25 บาททุกเมนู เป็นราคาที่มีความเหมาะสมที่สุดแล้ว ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ เมื่อสินค้ามีคุณภาพบวกกับราคาที่เหมาะสม การเติบโตของธุรกิจก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย
3. ชาพะยอมให้ความสำคัญกับทำเลที่ตั้งมาก โดยจะเลือกย่านออฟฟิศ สถานที่ราชการ ซึ่งมีผู้บริโภคจำนวนมาก และหลีกเลี่ยงบางพื้นที่ เช่น ถนนคนเดิน เพราะเป็นจุดที่คนเดินผ่านมากกว่าเดินชิม อยากได้ลูกค้าที่มากขึ้นทำเลที่ตั้งสำคัญมาก ๆ สามารถเอาแนวคิดของชาพะยอมไปปรับใช้ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ได้เลย
4. รูปแบบการตลาดของชาพะยอมใช้การบอกต่อ หรือ Word of Mouth ซึ่งมันเป็นวิธีการที่ได้ผลดีมาก ๆ ทั้งประหยัดต้นทุนค่าโฆษณา และมีความน่าเชื่อถือสูง เพราะคนที่บอกต่อมักเป็นคนที่รู้จักและคุ้นเคยกันดี ทำให้การขยายแฟรนไชส์เติบโตอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น
5. ทำแฟรนไชส์จะต้องมีการควบคุมคุณภาพให้ดี หากไม่รัดกุมอาจจะทำให้แบรนด์เสียหายได้ ทั้งในเรื่องของบริการ และการปรับสูตรเพื่อประหยัดต้นทุนของเหล่าตัวแทน ควรมีการอบรมสัมมนา หรือทำความใจให้ตรงกันระหว่างแบรนด์กับตัวแทน เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจและแบรนด์รวมถึงตัวแทนอย่างยั่งยืน
สำหรับผู้ประกอบการอย่างเราทุกคน เชื่อว่า กรณีศึกษา ชาพะยอม จะช่วยให้เอาไปต่อยอดในธุรกิจของตัวเองได้หลายอย่างเลย ทั้งเรื่องการตั้งราคา การเลือกทำเลที่ตั้ง การให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้า รวมไปถึงเทคนิคทางการตลาด นำสิ่งเหล่านี้ไปปรับใช้ให้เข้ากับธุรกิจของคุณเอง มั่นใจได้เลยว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นแน่นอน