หากพูดถึงกลุ่มธุรกิจในเครือ RS เรามักจะนึกภาพถึงธุรกิจสื่อและบันเทิงที่เกิดจากการขายคอนเทนต์ด้านความบันเทิงไม่ว่าจะเป็นเพลง ภาพยนตร์ รายการทีวี แต่ในปัจจุบันธุรกิจบันเทิงไม่ได้เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลัก แต่ RS กลับแตกไลน์มาสู่ธุรกิจตลาดสุขภาพและความงาม ด้วยกลยุทธ์ RS Mall วันนี้เรามาเรียนรู้การฉีกกฏธุรกิจด้วย กรณีศึกษา RS Mall ว่าหันเหไปสู่ธุรกิจสุขภาพและความงามได้อย่างไร แล้วเราสามารถนำมาต่อยอดธุรกิจอะไรได้บ้าง
กรณีศึกษา RS Mall ปรับโมเดลจากบันเทิงสู่ Entertaincommerce
หากพูดถึงกลุ่มธุรกิจในเครือ RS เรามักจะนึกภาพถึงธุรกิจสื่อและบันเทิงที่เกิดจากการขายคอนเทนต์ด้านความบันเทิงไม่ว่าจะเป็นเพลง ภาพยนตร์ รายการทีวี แต่ในปัจจุบันธุรกิจบันเทิงไม่ได้เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลัก แต่ RS กลับแตกไลน์มาสู่ธุรกิจตลาดสุขภาพและความงาม ด้วยกลยุทธ์ RS Mall วันนี้เรามาเรียนรู้การฉีกกฏธุรกิจด้วย กรณีศึกษา RS Mall ว่าหันเหไปสู่ธุรกิจสุขภาพและความงามได้อย่างไร แล้วเราสามารถนำมาต่อยอดธุรกิจอะไรได้บ้าง
การแตกไลน์มาสู่ธุรกิจตลาดสุขภาพและความงาม ตามกรณีศึกษา RS Mall มีที่มาจาก RS เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจจากการที่มีลูกค้าที่ผลิตเครื่องสำอางสนใจซื้อโฆษณาในช่องของ RS เป็นจำนวนมาก โดยตลาดของกลุ่มนี้โตขึ้น 6-8 เปอร์เซ็นต์ทุกปี ซึ่งเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจมาก และ RS เองก็มีสื่อของตัวเองอยู่ในมืออยู่แล้ว จึงได้ประกาศเปลี่ยนรูปแบบเป็นธุรกิจทางด้านสุขภาพและความงามและสร้าง RS Mall ภายใต้โมเดล บันเทิงเชิงพาณิชย์ หรือ Entertainmerce ที่บริหารงานตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำเพื่อสนับสนุนธุรกิจคอมเมิร์ซ จนเชื่อมโยงและส่งเสริมให้ทุกกลุ่มธุรกิจของตัวเองเติบโตจนได้รับเสียงฮือฮาและตอบรับเป็นอย่างมาก และทำให้มีรายได้จากธุรกิจสุขภาพและความงามนั้นสูงถึง 1,400 ล้าน
สิ่งที่ผู้ประกอบการควรนำไปประยุกต์หรือต่อยอดจาก กรณีศึกษา RS Mall ได้แก่
- ยอมเปลี่ยนจุดยืนตัวเองเพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า จากการตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจของ RS ทั้งๆ ที่มีจุดแข็งจากธุรกิจสื่อและบันเทิง แต่เลือกที่จะเริ่มต้นใหม่กับธุรกิจทางด้านสุขภาพและความงาม เพราะเล็งเห็นว่าระหว่างธุรกิจที่ไม่โตกับธุรกิจที่มีโอกาสโต RS เลือกที่จะก้าวออกไปสู่เส้นทางใหม่เพื่อการเติบโตที่ยิ่งใหญ่กว่า
- เชื่อมโยงรวมเป็นหนึ่งเดียว ผู้บริหาร RS มีกลยุทธ์ที่ดีและมองการณ์ไกลว่า แม้ว่าจะเริ่มต้นใหม่กับธุรกิจทางด้านสุขภาพและความงามแต่ก็ได้เชื่อมโยงกับกลุ่มธุรกิจเดิมคือสื่อและบันเทิงเข้าด้วยกันจนเป็น บันเทิงเชิงพาณิชย์ ที่ใช้ความเชี่ยวชาญด้านการสร้างคอนเทนต์เปลี่ยนฐานผู้ชมหรือผู้ฟังความบันเทิงมาเป็นผู้ซื้อ
- ใช้จุดแข็งเป็นกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ เพราะมีสื่อและความบันเทิงอยู่ในมือ มีดาราและนักแสดงในสังกัด มีช่องทีวีและรายการวิทยุเป็นของตัวเอง จึงใช้จุดแข็งที่มีเป็นกลยุทธ์รองรับการขายและการตลาดให้กับธุรกิจทางด้านสุขภาพและความงามของตัวเอง จนมียอดซื้อมากมาย
- สังเกต วิเคราะห์เพื่อนำมาปรับประยุกต์ใช้กับธุรกิจ มีใช้ฐานข้อมูลที่มีจากฐานผู้ชมและผู้ฟังมาวิเคราะห์และสร้างสินค้าด้านความงามที่ตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดี
- ยอมรับ เปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ท้ายสุดคือ RS มีการยอมรับที่จะเริ่มต้นใหม่ และเปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังพัฒนาโมเดลทางธุรกิจอย่างไม่หยุดยั้งอีกด้วย
เชื่อว่า กรณีศึกษา RS Mall จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเอาไปต่อยอดในธุรกิจของตัวเองได้อย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้จุดเริ่มต้นและการเปลี่ยนแปลงอาจสร้างความเจ็บปวดให้บ้าง แต่ขอให้ผู้ประกอบการทั้งหลายพึงตระหนักไว้ว่า เราอาจถอยหลังไปหนึ่งก้าว เพียงเพราะเรากำลังจะก้าวกระโดดไปได้ไกลกว่าเดิม แล้วความสำเร็จจะตามมาเสมอ